อดีตแฟนเก่าเปิดหน้าชน โต้กลับ “หญิงลี” เล่าหนังคนละม้วน

จากกรณีก่อนหน้านี้ หลังจากที่เพจเจ๊มอย 108 ได้ออกมาโพสต์ข้อความทิ้งบอมบ์ถึงนักร้องลูกทุ่งสาวมีโลกสองใบว่า “วงการลูกทุ่งนี่ไม่เคยให้กูได้พักกันเลยนะ อย่าคิดว่าผู้ชายจะเจ้าชู้ได้อย่างเดียว เพราะผู้หญิงก็ลั้นลาได้ไม่แพ้กัน กูได้กลิ่นตุๆ ว่าตอนนี้นักร้องลุกทุ่งสาวท่านนึง มีโลก 2 ใบ สับรางเก่งไม่ไหว สับไปสับมา มีปัญหารถไฟปะทะกันเฉยเลยแม่เอ๊ย!! สุดท้ายเรื่องอิรุงตุงนัง เกือบถึงขั้นลงไม้ลงมือด้วย gun นี่เมียกูโว้ย!! ตำรงตำรวจทำงานกันจ้าละหวั่นเลยเด้อ.. ขนลุกเลยค่ะ” ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว ก็มีนักร้องสาวหลายคนถูกโยง ถึงประเด็นนี้รวมถึง หญิงลี ศรีจุมพล ด้วย

ต่อมา หญิงลี ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ว่านักร้องลูกทุ่งโลก 2 ใบคือตน แต่ยืนยันว่าไม่ได้คบซ้อนแต่อย่างใด “ก่อนหน้านี้เธอได้ถอยห่างความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มนอกวงการ และเริ่มต้นศึกษาดูใจกับหนุ่มคนใหม่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่ามีหลายอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นไปต่อไม่ได้ และรู้สึกว่าถูกคุกคามจากอีกฝ่าย ทำให้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความปลอดภัย และได้แจ้งความเอาไว้ในช่วงวันที่ 16-17 เมษายน เนื่องจากมีการเกิดความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ขอให้อีกฝ่ายแยกย้าย

แฟนเก่าหญิงลีโต้กลับ

ล่าสุดอดีตคนรู้ใจของ หญิงลี ได้ออกมาเปิดใจ และเปิดหน้าผ่านรายการโหนกระแสว่า “เคยคบหากับหญิงลีจริง ในฐานะคนรัก รู้จักกับเขาเมื่อ3ปีที่แล้ว ไปช่วยงานเขาในงานคอนเสิร์ตกับเพื่อน เขาก็ให้ ผจก มาบอกว่าไปรอหลังเวที เเล้วเขาเข้ามากอดผม และเขาให้ ผจก มาขอเบอร์กับไลน์ อีกวันนึงเขาก็โทรมาคุยถามเรื่องรายได้ โอนเงินมาให้ใช้ 5000 ก็คุยกันมา คุยกันสักพักเขาให้ไปหาที่คอนเสิร์ต และเขาก็ชวนไปกินข้าวปกติ และก็คุยกันเรื่อยมา และเขาก็ให้มาหาที่บ้าน ก็ให้มาอยู่ที่บ้านและให้มาช่วยงาน คุยกันไม่ถึงเดือน ผมเคยมาที่บ้านเเล้วครั้งนึง ตอนที่คบหญิงลีตอนนั้นไม่มีแฟน โสด 100% ก่อนหน้านี้รู้ว่าเขามีแฟน เพราะเคยเจอ แต่ตอนที่เข้ามาอยู่หญิงลีบอกว่าห่างกันแล้ว เลิกกันไปแล้ว เรื่องนี้ทางครอบครัวเขาก็รู้ ว่าเราคบหากัน ไปอยู่ที่บ้าน ก็ดูเรื่องการขับรถ ดูแลเขา ในฐานะแฟน ได้เงินเดือน 20,000 บาท

ที่ออกมาพูดเพราะหญิงลีออกมาให้ข่าว ข่าวที่หลุดตัวผมก็เครียด ผมไปขอให้ทางหลายเพจช่วย ผมขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความ แต่ไม่รู้ว่าใครปล่อยข่าว เรื่องของแฟนเขาตอนนั้นไปคอนเสิร์ตที่ชัยภูมิ แล้วเขามาบอกว่าแฟนเขามา ให้ผมออกจากห้องไปก่อน เพราะไม่อยากมีปัญหา ผมเลยคิดว่าเขาน่าจะยังไม่เคลียร์ ผมก็เสียใจ เจ็บใจ และคิดว่าเขาน่าจะคบกันอยู่ มันเป็นความรู้สึกเซอร์ไพรส์ ที่ผมไม่อยู่เคลียร์กับไม้ เพราะเขาบอกจะเคลียร์เอง ผมก็ยอม ต่อมาหญิงลีก็มาบอกว่าเคลียร์แล้ว ใจเย็นๆ พูดปลอบ ผมก็รักเขา ไม่งั้นผมไม่เสียใจขนาดนั้น

ที่มา : โหนกระแส [Hone-Krasae]

ก็คบกันมาปกติ เพราะเขาบอกเคลียร์แล้ว แต่เขามีการโทรคุยฝั่งไม้ตลอดบอกคุยเรื่องงาน และเขาก็ได้มีการพาที่ไปรีสอร์ทที่บุรีรัมย์ ซึ่งไม้เป็นคนเปิดห้องให้ และเขาไม่รู้ว่าผมมากับหญิงลี และที่เขาไม่เปิดตัวผมเพราะกลัวไม้ตั้งรับไม่ทัน ผมเห็นเขากับไม้กอดกันหอมกัน ผมก็รู้สึกไม่โอเคมากขึ้นมีการส่งแชทว่าไม่โอเค ไม่เห็นใจผมเหรอ

คืนนั้นผมโทรคุยกับเขา เขาบอกจะเข้าห้องนอนกับไม้ คืนนั้นก็ไม่มีโอกาสได้คุย คุยกับแม่ และแม่เขาบอกให้ใจเย็นๆ ถ้ารักลูกเขาให้ทำตัวดีๆ และครั้งที่ 3 เขากลับมาจากบุรีรัมย์ ผมไปรับที่สนามบิน ระหว่างทางเขาบอกไปนานบ้านแม่ใจดี (นามสมมุติ) ผมก็โอเค ซึ่งเขามีท่าทางกังวล ผมถามเขาบอกเครียดเรื่องงาน และเขาก็เข้าห้องไปคุยโทรศัพท์ในห้อง พอเขาออกมาก็บอกว่าพี่ไม้จะมา ผมก็คิดในใจอีกแล้วหรอ เลยถามมาได้ไง เขาบอกว่ามารับกลับ พอเจอพี่ไม้เขาก็ถามว่าเกิดไรขึ้น ผมเลยบอกว่าหญิงลีบอกว่าเคลียร์กับพี่แล้ว พอเขาถามจะจบไหม ผมก็ตอบว่าพี่ไม่สามารถห้ามผมไม่ให้รักใครไม่ได้หรอก พี่ไม้ก็บอกว่าจะหยุดไหม ถ้าไม่หยุด xูจะหยุดxึงเอง แล้วเค้าก็เปิดให้เห็นว่ามีปืน

ตอนที่ผมมาอยู่กับหญิงลี ยืนยันว่าได้ลดสถานะกับแฟนเก่าเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นมีตำรวจมา เพราะพี่ใจดีโทรแจ้ง พี่ไม้ก็วิ่งขึ้นชั้นสอง ผมก็ไปหาตำรวจ บอกตำรวจว่าเขามีปืนและข่มขู่ผม เลยบอกให้ตำรวจไปค้น และพอค้นก็เจอปืนชั้น 2 ทางพี่หญิงเขาก็พยายามคุยกับตำรวจ ซึ่งพี่หญิงเขาก็มาขอร้องผมไม่ให้ดำเนินคดี แต่ผมไปลงบันทึกประจำวันไว้ ก็ไปเคลียร์ที่ สน. ซึ่งพี่หญิงก็บอกไม้ว่าจะใช้เวลาอยู่กับผม เขาเปิดใจให้แล้ว และให้ไม้กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง

ที่มา : โหนกระแส [Hone-Krasae]

ในวันนั้นเขาชัดเจนต่อหน้าผมว่าเลือกผม คบอยู่กับผม แต่มันไม่จบ เขาก็ติดต่อคุยกันตลอด บอกไม้ว่ารอหน่อยนะ กำลังเคลียร์กับผมอยู่แต่ก็มาพูดกับผมอีกอย่าง และตกลงว่าวันที่ 19 เมษา เราแยกกัน ขาดกัน พอวันที่ 16 เมษาก็มาคุยกับเขามีกินเหล้า และผมก็จะออกบ้านเขา แต่เขาก็มีโทรหาครอบครัว คนรอบข้าง และเขาจะมาเอาโทรศัพท์ผม ซึ่งเขาเป็นคนซื้อให้ผม ผมเลยไลฟ์สด และตำรวจมาแล้วเขาแจ้งว่าผมบุกรุกและเอาโทรศัพท์ไป ก็เลยไปที่โรงพัก ซึ่งก่อนออกมาตำรวจบอกจะเอาโทรศัพท์ให้ผม สุดท้ายไม่คืนเพราะหญิงลีบอกเป็นคนเค้า แต่เค้าเอาซิมคืนให้ผม

ยืนยันวันนั้นไม่ได้เมาขาดสติ สุดท้ายเขาดำเนินคดีผมบุกรุกยามวิกาล แจ้งความลักทรัพย์ เพราะได้หมาย ผมก็มารับทราบข้อกล่าวหาปกติ ลักทรัพย์ผมดูข่าวมาเขาบอกเป็นกล้องถ่ายรูป ผมขอชี้แจงว่า เขาบอกให้ผมเอาไปถ่ายงานได้ หรือให้เช่าได้ ซึ่งเขามาบอกว่ากล้องหายก่อนสงกรานต์ ผมเลยบอกให้ไปแจ้งความและตั้งขอสงสัยว่าเป็นคนในบ้าน แต่เขาบอกว่าไม่อยากไปกล่าวหา และเขาไม่แจ้ง แต่พอเกิดเรื่องไปแจ้งว่าผมลักทรัพย์ สุดท้ายเขาสั่งไม่ฟ้องเพราะไม่มีหลักฐาน

ต่อมาเขาแจ้งคดีทำร้ายร่างกาย แต่ผมไม่ได้ทำยืนยันว่าไม่ได้ทำ อีกคดีนึงคือข่มขู่ บอกว่าผมไปขู่ว่าจะไปปิดรีสอร์ท แต่ผมก็มีการไปให้ปากคำ และมีการนัดคุยกันแต่สุดท้ายก็ไม่ได้มา

ยืนยันไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ ขอแค่เรื่องงาน ส่วนเรื่องแหวนทองเข้าถอดจากนิ้วให้ผม แต่ตอนนั้นช็อตเพราะเขาไม่จ่ายเงินเดือน เขาบอกให้แก้ปัญหาเองก่อน ก็เลยเอาทองไปจำนำ เงิน 2 หมื่นที่เขาให้ คบกับเขาเพื่องาน ช่วงที่เข้าไปอยู่มันรักอยู่แล้ว คำว่าไปกอบโกย ผู้หญิงที่คุยคือแฟนเก่า เขขาโทรไปหาอดีตแฟนเก่าผมบอกให้เลิกคุยกับผมเขาด้วย

ผมไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์จากหญิงลี เข้ามาเรื่องงานหาเงินใช้ คบกับเขาผมได้เงินเดือนละ 20,000 เรื่องแหวนที่เข้าให้อันนั้นเขาไม่ได้ซื้อ ถอดจากมือให้ และผมมีปัญหาเรื่องการเงิน เพราะไม่ได่เงินเดือน เลยเอาไปจำนำ คบกับเขาก็เรื่องงาน ช่วงที่อยู่กับเขาผมรักอยู่แล้ว อยากมีครอบครัว อยากมีลูก ส่วนเรื่องกอบโกย ผู้หญิงที่ผมคุยคือแฟนเก่า พี่หญิงเขาก็โทรไปว่าอดีตแฟนว่าให้เลิกยุ่งกับผม เพราะผมคุยกับเขาอยู่

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น คงต้องรอฟังในมุมของ หญิงลี ศรีจุมพล อีกครั้งหนึ่ง